บ้านปู แง้มทริค “ปั้นโปรไฟล์ธุรกิจ SE” อย่างไรให้โดนใจนักลงทุน พร้อมชวนติดตามพัฒนาการธุรกิจ SE ใน BC4C ปีที่ 12

29 สิงหาคม 2566 20.04 น.
อ่าน 5,001 ครั้ง

 

บ้านปู แง้มทริค ปั้นโปรไฟล์ธุรกิจ SE” อย่างไรให้โดนใจนักลงทุน

พร้อมชวนติดตามพัฒนาการธุรกิจ SE ใน BC4C ปีที่ 12

  • เผย 5 คีย์สำคัญสร้างโปรไฟล์ธุรกิจ SE น่าเชื่อถือ ดึงดูดนักลงทุน ร่วมผลักดันธุรกิจโต  
 

 

กิจการเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise (SE) อาจเกิดจากการมี ไอเดียเพื่อสังคมที่ดี แต่การจะทำธุรกิจ SE ให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนนั้นต้องมีแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบหวังผลที่ชัดเจนและพร้อมที่จะนำเสนอให้กับนักลงทุนที่สนใจ ดังนั้นนอกเหนือจากการสร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว การมี โปรไฟล์ธุรกิจที่น่าเชื่อถือ จึงเป็นสิ่งที่ SE ควรให้ความสำคัญ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สถาบัน ChangeFusion ในฐานะผู้สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมมาอย่างยาวนาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการกิจการ SE ให้สามารถสร้างโปรไฟล์ธุรกิจให้แข็งแกร่ง ผ่านการดำเนินโครงการ Banpu Champions for Change (BC4C) โดยโครงการฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนธุรกิจและปั้นโปรไฟล์แบบมืออาชีพ มาช่วยเพิ่มทักษะในการทำโปรไฟล์ธุรกิจและพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม เพื่อทำให้ SE สามารถระดมทุนและสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง

ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ BC4C ได้คัดเลือก SE ที่มีประสบการณ์และผ่านการดำเนินธุรกิจมาระยะหนึ่ง ที่ต้องการโตขึ้นไปอีกขั้นจำนวน 6 โครงการมาเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาศักยภาพกิจการระยะขยายผล (Acceleration Program) ซึ่งหนึ่งในกระบวนการหลักที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับการพัฒนาคือการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจ ที่ตอบโจทย์สิ่งที่นักลงทุนต้องการเห็น

 

 

  • 5 กุญแจสำคัญ ช่วยปั้นโปรไฟล์ธุรกิจSE ให้ดึงดูดนักลงทุน

นางสาวไฮดี้ เหลิ่ง ผู้จัดการฝ่ายบริหารธุรกิจแห่ง ChangeFusion ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนธุรกิจในกิจการเพื่อสังคม เผยว่า หลักสำคัญในการพัฒนาโปรไฟล์ธุรกิจ (Business Profile) เพื่อเพิ่มโอกาสในการร่วมลงทุนของนักธุรกิจได้นั้น ผู้ประกอบการควรยึด 5 ข้อสำคัญดังนี้  

  • ต้องชัดเจนว่าธุรกิจของตนอยู่ในอุตสาหกรรมใด

การกำหนดแนวทางและวางตำแหน่ง (Position) ของธุรกิจตัวเองในอุตสาหกรรมที่แน่ชัด 
จะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจและมีแหล่งอ้างอิงในการวางแผนพัฒนากลยุทธ์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้นักลงทุนเห็นภาพและสามารถประเมินการเติบโตได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น                                                              

  • การแสดงข้อมูลสถิติที่ดึงดูดนักลงทุน (Traction)เพื่อประกอบการตัดสินใจ 

ไม่ว่าจะด้วยการแสดงสถิติจำนวนผู้ใช้งานในปัจจุบัน รายรับ รายได้ กำไร สถิติการกลับมาซื้อซ้ำ เป็นต้น รวมถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพื่อแสดงให้เห็นความถนัดของผู้ประกอบการ สร้างความเชื่อมั่นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้ารวมถึงการสร้างรายได้ได้จริง

  • มีแผนและแนวทางขยายกิจการในอนาคต

ผู้ประกอบการต้องสามารถแสดงถึงวิสัยทัศน์และแผนงานระยะยาว โดยมีการวางแผนกิจกรรม วางแผนการเงิน (Financial Planning) การคาดการณ์ทางการเงิน (Financial Forecasts) ให้นักลงทุนรับทราบแผนอย่างชัดเจน

  • เข้าใจบริบทในการสร้างอิมแพคกับสังคม(Social Impact)

กล่าวคือ Business Model จะต้องสามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้ ทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม สังคมหรือชุมชนนั้นๆ ได้จริงและวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสามารถทำได้โดยการชักชวนกลุ่มเป้าหมายหรือผู้ที่มีส่วนได้เสีย (Stakeholder) เข้ามามีส่วนร่วมในธุรกิจ

  • มีแผนบริหารและจัดการความเสี่ยง

หลายๆ ครั้งผู้ประกอบการมักไม่ได้ให้ความสนใจหรือมองข้ามส่วนนี้ไป ซึ่งจริงๆ การมีแผนวิเคราะห์ความเสี่ยงและแผนรับมือ จะทำให้ผู้ประกอบการมีความเป็นมืออาชีพ พร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง และเพิ่มความน่าเชือถือให้กับพอร์ตธุรกิจได้อย่างมาก ถือเป็นส่วนสำคัญที่สามารถดึงดูดนักลงทุนได้

“สำหรับกิจการที่มาเข้าร่วม Acceleration Program โดยส่วนใหญ่ ที่แม้จะมีรากฐานที่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่ยังขาดเรื่องราวความน่าสนใจและแผนธุรกิจระยะยาวที่จะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาสนับสนุน ตลอดจนสร้างความมั่นคงให้ตนเองจนสามารถดำเนินกิจการได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น การสร้างโปรไฟล์ธุรกิจที่ดี นอกจากช่วยสนับสนุนการเจรจากับนักลงทุนได้อย่างครบถ้วนและตรงประเด็นแล้ว ยังช่วยตีกรอบให้ธุรกิจสามารถเดินไปข้างหน้าได้โดยไม่หลงทาง” นางสาวไฮดี้ กล่าว

 

 

  • จัดการตัวเองอย่างไรให้เป็นSE ที่นักลงทุนชอบ ด้วย เครื่องพิสูจน์-การนำเสนอ

นายสมิทธิพร เศรษฐปราโมทย์ Head of Corporate Venture Capital บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนได้ให้คำแนะนำว่า “ประเภทของนักลงทุนที่จะลงทุนใน SE คือคนที่อยู่ในแวดวง Impact Fund หรือกองทุนบนหลักการแห่งความยั่งยืน สิ่งแรกที่นักลงทุนประเภทนี้มองหา คือ การมี ‘เครื่องพิสูจน์’ ว่าธุรกิจสามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง ทั้งด้านผลกำไรและผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรม มีการวางแผนรับมือหรือบริหารจัดการธุรกิจในภาวะวิกฤตอย่างไร มีความสามารถในการสร้างรายได้ในระยะยาวมากแค่ไหน รวมถึงมีทิศทางการเติบโตของธุรกิจและความสามารถในการมอบผลตอบแทนได้ในสัดส่วนที่ตกลงกันในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ เช่น ธุรกิจจะมีแนวโน้มการเติบโตหรืออยู่รอดอย่างไร ภายในเวลา 3-5 ปี”

“นอกจากนี้ การมี ‘การนำเสนอ’ (Presentation) ที่ดีและสอดคล้องกับความสนใจของนักลงทุน ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนอกจากตัวเลขผลประกอบการ กำไร นักลงทุนยังมองหาตัวเลขที่แสดงถึงผลกระทบด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ หากลงทุนใน SE นี้แล้วจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้จำนวนกี่ราย หรือลดอัตราการเจ็บป่วยของผู้ป่วยได้ในสัดส่วนกี่เปอร์เซนต์ ดังนั้น หาก SE สามารถพัฒนาทักษะการนำเสนอ ไปพร้อมกับการตีกรอบปัญหาที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพได้ จะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนธุรกิจได้เป็นอย่างดี” นายสมิทธิพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าแนวทางในการสร้าง Business Profile ที่ดีนั้น ไม่ได้พึ่งพาเพียงความแน่วแน่ในการทำธุรกิจเพื่อสังคมเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการความรู้ด้านธุรกิจที่ลึกซึ้ง เพื่อให้กิจการ SE สามารถเสริมจุดเด่น แก้ไขจุดด้อย สร้างการเติบโตในระดับที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้อีกด้วย จึงเป็นต้นกำเนิดของ Acceleration Program ภายใต้โครงการ BC4C

 

 

ด้าน นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้ เราได้สานต่อกิจกรรม Acceleration Program โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวง Impact Fund มาให้คำแนะนำการสร้างโปรไฟล์ธุรกิจที่ตอบโจทย์นักลงทุน ซึ่งหลังจาก SE ทั้ง 6 ทีมที่ผ่านเข้ารอบมาแล้วในปีนี้ มีโปรไฟล์ธุรกิจที่พร้อมแล้ว เราก็จะสานต่อกิจกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอธุรกิจกับนักลงทุนตัวจริง ในช่วงปลายเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม 2566 เพื่อโอกาสในการต่อยอดธุรกิจและสร้างผลกระทบเชิงบวกทางสังคมที่กว้างขึ้นได้จริง ทั้งนี้ เราหวังว่าการเพิ่มศักยภาพและช่วยต่อยอดธุรกิจของ SE ภายใต้โครงการดังกล่าว จะช่วยให้ประเทศของเรามีจำนวน SE ที่แข็งแกร่งและพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชนได้ในระยะยาว”

- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • "PTTGC" รวมพลังผลักดันไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ในงาน GC Sustainable Living Symposium 2024: GEN S GATHERING
    18 ต.ค. 2567 12.13 น.
  • ออมสิน ตั้งเป้าสร้าง Social Impact ปีละมากกว่า 15,000 ล้านบาท เริ่มปี 67
    18 ต.ค. 2567 11.32 น.
  • โรงไฟฟ้า "บีแอลซีพี" จุดประกายอนาคตผู้นำรุ่นใหม่ ปั้นเด็กระยองสู่เส้นทางสายปกครอง
    17 ต.ค. 2567 23.01 น.
  • “พีระพันธุ์” ชี้ภาคอุตสาหกรรมต้องร่วมมือรัฐ ปรับตัวรับแผนพลังงานใหม่พร้อมเทรนด์โลกที่มุ่งลดคาร์บอน
    17 ต.ค. 2567 22.58 น.
  • ส.อ.ท. - ก.พลังงาน จัดงาน Energy Symposium 2024 สู่การเปลี่ยนผ่าน “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ผลักดันการปรับตัวภาคอุตฯ
    17 ต.ค. 2567 22.45 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.