บีไอจีร่วมทุนปตท เดินเครื่องโรงแยกอากาศไฮเทค ก.ย. นี้ ด้วยเทคโนโลยีลดคาร์บอน พร้อมผลิตออกซิเจนเพิ่ม

13 กันยายน 2564 16.08 น.
อ่าน 2,452 ครั้ง
 
บีไอจีร่วมทุนปตท เดินเครื่องโรงแยกอากาศไฮเทค ก.ย. นี้
ด้วยเทคโนโลยีลดคาร์บอน พร้อมผลิตออกซิเจนเพิ่ม
 
บีไอจี-ปตท เตรียมสตาร์ทโรงแยกอากาศด้วยการนำเทคโนโลยีแลกเปลี่ยนความเย็นจาก LNG แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าผลิตเชิงพาณิชย์ปลายกันยายนนี้ มุ่งผลักดันเป้าหมายลดคาร์บอนให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ พร้อมขยายกำลังการผลิตออกซิเจนป้อนระบบสาธารณะสุข
 
 
 
นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) ในฐานะผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของประเทศไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการโรงแยกอากาศแห่งใหม่ (Air Separation Unit : ASU) ในนาม บริษัท มาบตาพุด แอร์โปรดักส์ จำกัด (Map Ta Phut Air Products Co., Ltd. : MAP) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนเพื่อต่อยอดนวัตกรรมร่วมกันระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด (บีไอจี) ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง พร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนกันยายนนี้ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรม 450,000 ตันต่อปี นับเป็นโรงแยกอากาศแห่งแรกในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้เทคโนโลยีการแยกอากาศโดยอาศัยพลังงานความเย็นที่ได้จากการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่คลังเก็บก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Terminal)ลดการพึ่งพาการใช้ไฟฟ้าในกระบวนการแยกอากาศ ทำให้การปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ (Carbon Emissions) สู่ชั้นบรรยากาศลดลง ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นเทรนด์ของภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกที่กำลังตื่นตัวและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในเวลานี้
 
“โครงการโรงแยกอากาศที่ใช้พลังงานความเย็นจากการเปลี่ยนสถานะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้ง ปตท และ บีไอจี ที่จะผลักดันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 28,000 ตันต่อปี และลดการปล่อยน้ำเย็นลงสู่ทะเล 2,500 ตันต่อชั่วโมง พร้อมสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นส่วนสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions” นายปิยบุตรกล่าว
 
โรงแยกอากาศแห่งใหม่นี้ สามารถผลิตได้ทั้งออกซิเจน ไนโตรเจน และอาร์กอน โดยเฉพาะออกซิเจนเหลวสามารถผลิตได้ 140 ตันต่อวัน เมื่อรวมกำลังการผลิตออกซิเจนเหลวเดิมทั้งหมดของบีไอจีแล้ว จะทำให้กำลังการผลิตออกซิเจนเหลวของบีไอจีเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,100 ตันต่อวัน ซึ่งเป็นกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดย ปตท และ บีไอจี จะนำออกซิเจนเหลวที่ผลิตได้ เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนหน่วยงานสาธารณสุขของประเทศ ซึ่งมีความสำคัญภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยวิกฤตอยู่ในอัตราที่สูง
- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • Café Amazon เปิดเวทีประชันฝีมือ เฟ้นหาสุดยอดบาริสต้า ผ่าน Cafe Amazon Barista
    12 ก.ค. 2568 20.44 น.
  • BPP เผย 5 เทรนด์อนาคตพลังงาน สร้างความมั่นคง-ลด CO₂
    11 ก.ค. 2568 17.46 น.
  • ปตท.สผ. จัดงาน OpEx Day 2025 ส่งเสริมการพัฒนาการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศ
    09 ก.ค. 2568 18.27 น.
  • ด่วน! "กองทุนอนุรักษ์" ออกโรงเตือน อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างจัดสรรงบปี 2568
    09 ก.ค. 2568 18.04 น.
  • EGCO Group ร่วมทุน “CDI Group” ขาย IPO จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นอินโด อย่างเป็นทางการ
    09 ก.ค. 2568 17.16 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.