นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าจากนโยบาย ปรับสมดุลปาล์มเพื่อความยั่งยืนของกระทรวงพลังงาน กำหนดให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10
เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ (สำหรับรถดีเซลทั่วไป) น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 (สำหรับรถเก่าและรถยุโรป) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 (สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่) เป็นน้ำมันดีเซลทางเลือก เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลในภาคพลังงานให้เพิ่มมากขึ้น โดยมีเป้าหมายในการสร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบให้มีความยั่งยืน สำหรับปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลเฉลี่ยต่อวันในช่วง 1 – 21 กันยายน 2563 เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนโดย มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 62.6 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจ ประกอบด้วยการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 อยู่ที่ 40.4 ล้านลิตร/วัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 อยู่ที่ 19.9 ล้านลิตร/วัน น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 อยู่ที่ 2.3 ล้านลิตร/วัน ซึ่งการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 คิดเป็นปริมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณการใช้
กลุ่มน้ำมันดีเซล
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป กรมธุรกิจพลังงาน ประกาศเปลี่ยนชื่อน้ำมันให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ตามนโยบายส่งเสริมน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 ให้เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนชื่อน้ำมัน ดังนี้
เดิม ใหม่ (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา เป็น น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 (มีส่วนผสมไบโอดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 7 โดยปริมาตร)
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี10 เป็น น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (มีส่วนผสมไบโอดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 10 โดยปริมาตร)
สำหรับ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 (มีส่วนผสมของไบโอดีเซลในสัดส่วนร้อยละ 20 โดยปริมาตร) ไม่ได้มีการเปลี่ยนชื่อตามประกาศดังกล่าว และยังมีการจำหน่ายในสถานีบริการ และ Fleet รถบรรทุกทั่วประเทศ
ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ได้ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ค้าน้ำมันและสถานีบริการให้เปลี่ยนชื่อชนิดน้ำมันในสถานีบริการให้ถูกต้อง รวมทั้งช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนผู้รับบริการ
ในสถานีบริการทราบ ทั้งในรูปแบบของการแจกเอกสาร การตั้งป้ายหน้ารถ และการสอบถามความต้องการของผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน
กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน
25 กันยายน 2563