เอ็กโก กรุ๊ป ปิดดีลซื้อหุ้น 28% “ลินเดน โคเจน” โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศความสำเร็จในการซื้อหุ้น 28% เสร็จสมบูรณ์ ในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ ผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น “ลินเดน โคเจน” ซึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิต 972 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่เมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า “บริษัท เอ็กโก ลินเดน ทู แอลแอลซี (EGCO Linden II, LLC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอ็กโกถือหุ้นทั้งหมด ได้ดำเนินการซื้อหุ้น 28% ในบริษัท ลินเดน ทอปโก้ (Linden Topco) จากบริษัท เออีไอเอฟ ลินเดน เอสพีวี แอลแอลซี (AEIF Linden SPV, LLC) และบริษัท ไฮสตาร์ แคปปิตอล จีพี โฟร์ แอลพี (Highstar Capital GP IV, L.P.) แล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564”
โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้าลินเดน หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 172 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า พีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ (PJM PS North) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ทั้งโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์กและตลาดซื้อขายไฟฟ้าพีเจเอ็ม พีเอส นอร์ธ เป็นตลาดไฟฟ้า 2 แห่งที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา
ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังขายไอน้ำและไฟฟ้าภายใต้สัญญาระยะยาวแก่โรงกลั่นน้ำมันเบย์เวย์ (Bayway Refinery) ที่ตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน โดยโรงกลั่นฯ เป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ฟิลิปส์ 66 (Philipps 66) นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ยังมีความได้เปรียบด้านการจัดหาเชื้อเพลิง เนื่องจากตั้งอยู่ในเมืองลินเดน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นบริเวณที่สามารถเข้าถึงแหล่งก๊าซธรรมชาติได้หลายแห่ง
นายเทพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความสำเร็จในการซื้อหุ้นรายการนี้เป็นก้าวสำคัญของเอ็กโก กรุ๊ป ในการเปิดประตูสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ที่จะเพิ่มโอกาสการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในอนาคต ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าลินเดน โคเจน ทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นในพอร์ตโฟลิโอของเอ็กโก กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 272 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายที่คาดว่าจะมีกำลังผลิตฯ เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ในปีนี้ ซึ่งในปัจจุบันยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 2-3 โครงการ”