วันที่ 29 ต.ค. 68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าว โครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” ยกระดับมาตรการรับมือสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2569 โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นางสาวยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ตรีเดช กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการระบายฝุ่น PM2.5 จากการขนส่ง ด้วยการเชิญชวนประชาชนให้นำรถยนต์ขนาดเล็กเข้ารับบริการตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์ และเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จะสามารถลดการเกิดมลพิษและฝุ่นควันในไอเสียรถยนต์ได้อย่างมาก เพราะจากการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและไส้กรองจะสามารถลดควันดำได้มากกว่า 50% จึงส่งผลต่อเนื่องให้ฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เช่นกัน
ในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและค่ายรถยนต์ให้การสนับสนุนจัดโปรโมชั่นต่อที่ 1 ให้ส่วนลดราคาค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพเครื่องยนต์ฟรีกว่า 55 รายการ และให้ส่วนลดราคาค่าน้ำมันเครื่อง ค่าอะไหล่และค่าแรงสูงสุดถึง 50%

สำหรับรถยนต์ที่เข้ารับบริการกับศูนย์บริการรถยนต์ 9 แบรนด์ คือ อีซูซุ มิตซูบิชิ นิสสัน โตโยต้า ฮอนด้า มาสด้า ฮีโน่ ฟอร์ด และซูซูกิ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจำนวน 1,745 ศูนย์บริการ หรือศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของผู้ค้าน้ำมัน 5 แห่ง คือ ปตท. บางจาก เชลล์ พีที และโมบิล และศูนย์บริการบีควิก ที่เข้าร่วมโครงการ Green List Plus “โปรสู้ฝุ่น ลด PM2.5” และลงทะเบียนบัญชีสีเขียวหรือ Green List Plus กับกรุงเทพมหานครจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่อที่ 2 จากเครือข่ายเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ อาทิ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) บริษัท ซีพี แอ็กส์ตร้า จำกัด (มหาชน) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอดวานส์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในการให้สิทธิการจอดรถยนต์ฟรีเพิ่มเติมในห้าง เซ็นทรัล The mall และโลตัส ได้รับบัตรกำนัลค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS และส่วนลดราคาสำหรับการซื้อ พรบ.รถยนต์หรือประกันภัยรถยนต์ผ่าน AIS

สำหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศของประเทศไทยในปีที่ผ่าน ๆ มา โดยรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยกเว้นฝุ่น PM2.5 ที่ยังพบเกินมาตรฐานในบางช่วงเวลา โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ปี 2568 พบว่าค่า PM2.5 ในกรุงเทพฯ ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงแนวโน้มที่ดีจากมาตรการของภาครัฐ ในฤดูกาลฝุ่นปี 2569 ภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีระกุล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เพื่อเร่งแก้ปัญหาที่ประเทศกำลังเผชิญ

ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนรถยนต์จดทะเบียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถเก่าที่สะสมอยู่ในระบบ ซึ่งหากขาดการบำรุงรักษาจะปล่อยมลพิษออกสู่บรรยากาศมากกว่ารถที่ได้รับการดูแล จึงควรส่งเสริมให้ประชาชนหมั่นตรวจเช็กและ ซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เพื่อลดการเกิดฝุ่นควัน การเปลี่ยนถ่านน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองได้ ขอเชิญชวนให้ประชาชนนำรถยนต์เข้ามารับการบริการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาฝุ่นPM 2.5 ดังสโลแกน "ตรวจสภาพรถกันสักนิด ลดมลพิษฝุ่นได้"