บางจากฯ เร่งเครื่องกลยุทธ์ “Bangchak 100x” ตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดด EBITDA เพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571 รักษาความเป็นเลิศในทุกด้าน ต่อยอดด้วย 4 แกนยุทธศาสตร์
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability’ ตั้งเป้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด มี EBITDA เพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571 เพื่อเร่งสร้างคุณค่าและยกระดับศักยภาพการแข่งขัน พร้อมรักษาความเป็นเลิศในทุกด้าน ต่อยอดด้วย 4 แกนยุทธศาสตร์ ลงทุนบนพื้นฐานของวินัยทางการเงิน พัฒนาและดูแลบุคลากรซึ่งเป็นกำลังสำคัญขององค์กร ตลอดจนรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บางจากฯ ได้ขยายธุรกิจพลังงานครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ดำเนินธุรกิจในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2567 มีสินทรัพย์รวมกว่า 316,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า จากราว 59,000 ล้านบาทในปี 2553 ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กรที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนผ่าน และสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาไม่นาน
แต่ปัจจุบัน เรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน ท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์ ราคาพลังงานที่ไม่แน่นอน และแรงกดดันจากการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ แม้สังคมโลกจะเร่งผลักดันการลดคาร์บอน แต่รายงานจากหลายสำนักยังชี้ว่าไฮโดรคาร์บอนจะคงเป็นพลังงานหลักของเศรษฐกิจโลกจนถึงปี 2593 ดังนั้น บางจากฯ เร่งเครื่องกลยุทธ์ Bangchak 100x เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน (Return-Focused Investment) ควบคู่กับการขยายการดำเนินงานในระดับสากล ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าในธุรกิจหลักและการใช้เงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Top Tier TSR) ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับสูงกว่าคู่แข่ง และพร้อมผลักดันให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ด้วยการลงทุน เพื่อรองรับอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงโมเลกุลสะอาด (Clean Molecules – Future Proof) พลังงานทางเลือกที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ และตอบโจทย์ความยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับแกนยุทธศาสตร์หลัก 4 ด้าน คือ 1. การตั้งเป้าหมายใหม่ที่ท้าทาย มุ่งผลักดันให้ EBITDA เติบโตเพิ่มขึ้น 100% ภายในปี 2571) พร้อมเสริมสร้างศักยภาพองค์กรสู่การเป็น Thailand’s Top Employer และตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน ด้วยการมุ่งสู่การจัดอันดับ Top 1% ESG Ranking และ Top 5% ของดัชนี DJSI ควบคู่ไปกับการลดความเข้มข้นการปล่อยคาร์บอน (Carbon Intensity) อย่างต่อเนื่อง 2. การขับเคลื่อนสู่ความมั่นคงทางพลังงานและความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทน (Return-Focused Investment) ธุรกิจต้นน้ำระยะกลาง ตลอดจนพลังงานไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ 3. การยกระดับศักยภาพธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร(Margin Enhancement) ผ่านการปรับโครงสร้างธุรกิจ ตอบโจทย์การลงทุนและเป้าหมายใหม่ ครอบคลุมธุรกิจการกลั่นน้ำมันและการตลาด เชื้อเพลิงชีวภาพและเชื้อเพลิงแห่งอนาคต (SAF, HVO) การค้าพลังงานแบบ โดยการขยายกำลังการผลิตโรงกลั่น พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และขยายเครือข่ายการตลาดควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ให้เติบโต และ 4. การสร้างคุณค่าแก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการซื้อหุ้นคืน (Share Buyback) 3 ปี เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือหุ้นเสริมความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโต
เพื่อความชัดเจนในการดำเนินงาน บริษัทฯ จะปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาวโดยมุ่งเน้นการสร้าง Synergy ระหว่างหน่วยธุรกิจให้เกิดประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น การตลาด และพลังงานชีวภาพ ควบคู่กับการเร่งกลไกการเติบโตใหม่ผ่านธุรกิจการค้าน้ำมันและธุรกิจต้นน้ำ การปรับบทบาท BCPG ให้ก้าวสู่การเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อรองรับทั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและรายได้ที่มั่นคง รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตผ่านกองทุน CVC มูลค่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อวางรากฐานให้องค์กรก้าวนำการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
โดยจะจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่เป็น 5 กลุ่มหลัก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ได้แก่
ในด้านการตลาด มุ่งขยายสถานีบริการเป็นราว 2,300 แห่งในปี 2568 และมากกว่า 2,300 แห่งภายในปี 2571 พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดน้ำมันจาก 29% ในปี 2568 เป็นมากกว่า 33% ในปี 2573 ควบคู่กับการผลักดันธุรกิจ Non-Oil ทั้งอินทนิลและค้าปลีก โดยตั้งเป้าให้ EBITDA ของธุรกิจนี้เติบโต 3 เท่าภายในปี 2571
สำหรับกลยุทธ์ด้านการเงิน บริษัทฯ มุ่งเน้น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ การเพิ่มอัตรากำไรผ่านการยกระดับประสิทธิภาพของธุรกิจที่มีอยู่ และการจัดสรรงบลงทุน (CAPEX) อย่างเหมาะสม การลงทุนที่มุ่งผลตอบแทน โดยให้ความสำคัญกับธุรกิจต้นน้ำ การค้า และโครงสร้างพื้นฐานซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนหลักของการเติบโต การสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระดับแนวหน้า ผ่านโครงการซื้อหุ้นคืนระยะ 3 ปี และการสร้างกระแสเงินสดเพื่อรองรับการจ่ายเงินปันผล และการเตรียมความพร้อมสู่อนาคต ด้วยการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ควบคู่กับการใช้โอกาสจากเทคโนโลยีใหม่พร้อมรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินภายใต้วินัยการลงทุนที่เข้มงวด โดยมีการจัดสรรงบลงทุนในช่วงปี 2569–2571 วงเงินรวม 35,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก ขยายสู่โครงสร้างพื้นฐานอนาคต และรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
“บางจากฯ ต้องเดินหน้าอย่างเร่งรัดและมีวินัย รักษาความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก คงไว้ซึ่งความเป็นเลิศในทุกด้าน และให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานกับการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมาย การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ดังนั้น จึงมีการกำหนดกลยุทธ์ ‘Accelerating Bangchak 100x: Pivoting toward Energy Security and Sustainability’ เพื่อตอบโจทย์ในทุกมิติ พร้อมสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเสียทางธุรกิจ ผู้ถือหุ้น และสังคมในระยะยาว” นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย