BAFS เผยผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวม 734 ล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่อง

13 พฤศจิกายน 2566 12.26 น.
อ่าน 2,463 ครั้ง
 
BAFS เผยผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวม 734 ล้านบาท
เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าหนุนธุรกิจพลังงาน เพื่อความยั่งยืน
 
BAFS ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 โดยมีรายได้รวม 733.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน ปัจจัยหลักจากการฟื้นตัวธุรกิจท่องเที่ยว ชูยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ผลักดันระบบท่อขนส่งน้ำมัน เชื่อมโยงโครงข่ายภาคตะวันออกสู่ภาคเหนือ ผ่านเส้นทางสระบุรี-อ่างทอง (link line) ขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ขับเคลื่อนธุรกิจบริการพลังงานให้เติบโตอย่างยั่งยืน
 
ม.ล.ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของ BAFS Group เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขับเคลื่อนของกลุ่มธุรกิจบริการพลังงาน
 
โดยผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ของบริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 733.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2565 ตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจรวมของประเทศ โดยเป็นรายได้จากธุรกิจหลักในกลุ่มธุรกิจ Aviation รวม 587.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%
 
ทั้งนี้ รายได้ส่วนใหญ่มาจากปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานที่เพิ่มขึ้นถึง 31% เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Utilities ที่มีรายได้รวม 87.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปริมาณขนส่งน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการระบบท่อส่งน้ำมันภาคเหนือ (NFPT) ที่เพิ่มขึ้น 66% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจ Power มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ จำนวน 74.3 ล้านบาท ซึ่งปรับลดลง 3% จากสัญญาเงินอุดหนุนส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนมิถุนายน
 
อย่างไรก็ตาม BAFS Group มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาส 3/2566 จำนวน 349.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น 14% จากการดำเนินงานและค่าผลประโยชน์ตอบแทนจากการดำเนินกิจการให้บริการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Airport Concession Fee: ACF)
 
อีกทั้งมีต้นทุนทางการเงินสุทธิที่เพิ่มขึ้น 15% จากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของตลาดเงินโดยรวม ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2566 BAFS GROUP ขาดทุนสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 2.9 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 93% ที่มีผลขาดทุน 43.5 ล้านบาท BAFS Group ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบริการพลังงานที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว
 
ในขณะเดียวกัน ตามกลยุทธ์เติบโต กลุ่มบริษัทตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ในปี 2569 มาจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับอากาศยาน (Aviation) 50% จากกลุ่มธุรกิจที่สาธารณูปโภคและพลังงาน (Utility and Power) 40% และอีก 10% จากกลุ่มบริการธุรกิจ (Business Solutions and Services) เพื่อลดการพึ่งพิงรายได้หลักจากธุรกิจบริการน้ำมันอากาศยาน ตลอดจนมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อย์ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero target) ภายในปี 2593
 
สำหรับภาพรวมผลประกอบการ 9 เดือนแรก BAFS GROUP มีรายได้รวม 2,271.1 ล้านบาท กำไรสุทธิในส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทจำนวน 59.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจ Aviation 1,767.5 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของปริมาณน้ำมันอากาศยาน และจำนวนเที่ยวบินที่กลุ่มบริษัทให้บริการ
 
โดยในช่วง 9 เดือนของปีนี้ ปริมาณน้ำมันอากาศยานฟื้นตัวได้ 69% ของช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 สำหรับกลุ่มธุรกิจ Utilities มีรายได้รวมจำนวน 270.1 ล้านบาท จากค่าบริการขนส่งน้ำมันภาคพื้นดินและค่าบริการจัดเก็บน้ำมันของปริมาณน้ำมันรวมทุกผลิตภัณฑ์ของโครงการ NFPT ที่เติบโตขึ้น 91%
 
เนื่องจากการทำการตลาดเชิงรุกกับลูกค้าบริษัทน้ำมัน และกลุ่มธุรกิจ Power มีรายได้รวม 306.3 ล้านบาท จากการขายไฟฟ้าและอื่นๆ และจากเงินปันผลจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น
 
นอกจากนี้ BAFS Group ได้ขยายการลงทุนเพื่อสร้างสมดุลทางโครงสร้างธุรกิจและสร้างการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสู่พลังงานทดแทน โดยกลุ่มบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ BAFS X Mongolia LLC ในประเทศมองโกเลีย ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 3.6 ล้านบาท
 
เพื่อประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก ทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจการจัดเก็บน้ำมันและท่อขนส่งน้ำมันและธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าและบริการ โดยในระยะแรกกลุ่มบริษัทมีแผนร่วมลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
 
ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลความชัดเจนของการลงทุนในโครงการดังกล่าวได้ปี 2567 และได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท สุราษฎร์ อีโค พาวเวอร์ จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 30% เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่มีกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์
 
โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ในปี 2570 BAFS Group มุ่งพัฒนาธุรกิจบริการพลังงาน เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และตระหนักถึงความสำคัญเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เร่งผลักดันโครงการขนส่งน้ำมันทางระบบท่อภาคเหนือ (NFPT) โดยปัจจุบันกลุ่มบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเตรียมโครงการสร้างท่อขนส่งน้ำมันเชื่อมระหว่างเส้นทางสระบุรี-อ่างทอง (link line) เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายท่อขนส่งน้ำมันระหว่างภาคตะวันออกกับภาคเหนือ
 
ซึ่งจะช่วยทำให้โครงข่ายระบบท่อส่งน้ำมันของประเทศไทยมีความมั่นคงด้านพลังงานมากขึ้น และยังลดการปล่อยมลพิษและก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากรถขนส่งน้ำมัน ร่วมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของประเทศ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • ปตท.สผ. จัดงาน OpEx Day 2025 ส่งเสริมการพัฒนาการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศ
    09 ก.ค. 2568 18.27 น.
  • ด่วน! "กองทุนอนุรักษ์" ออกโรงเตือน อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างจัดสรรงบปี 2568
    09 ก.ค. 2568 18.04 น.
  • EGCO Group ร่วมทุน “CDI Group” ขาย IPO จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นอินโด อย่างเป็นทางการ
    09 ก.ค. 2568 17.16 น.
  • 3 การไฟฟ้า EGAT - MEA - PEA เพิ่มขีดความสามารถ ดำเนินงานสร้างความมั่นคงทางพลังงานไทย
    09 ก.ค. 2568 12.48 น.
  • กองทุนอนุรักษ์ฯ เผยหลักเกณฑ์เข้มข้น เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพจัดสรรงบโครงการด้านอนุรักษ์พลังงาน
    09 ก.ค. 2568 12.38 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.