กฟผ.ขอความร่วมมือช่วยลด PM 2.5 ไม่เผาไร่อ้อย-วัชพืชในฤดูเก็บเกี่ยว

30 พฤศจิกายน 2563 23.22 น.
อ่าน 2,231 ครั้ง

กฟผ. ขอความร่วมมือช่วยลด PM 2.5 ไม่เผาไร่อ้อย-วัชพืชในฤดูเก็บเกี่ยว

กฟผ. ขอความร่วมมือเกษตรกรไม่เผาไร่อ้อย ตอซังข้าวและวัชพืช ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิต ทรัพย์สิน และระบบไฟฟ้าของประเทศ พร้อมช่วยลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 รักษาสิ่งแวดล้อม

 

 

          นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เมษายนของทุกปี เป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะเทศกาลเปิดหีบอ้อย โดยเกษตรกรชาวไร่อ้อยบางส่วนนิยมใช้วิธีการเผาอ้อยก่อนเก็บเกี่ยว เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานทำให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ คือ วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่มีสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยได้กำหนดมาตรการในการลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ ไม่เกินร้อยละ 20 ในฤดูการผลิตปี 2563/2564 เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเก็บเกี่ยวอ้อยสดมากยิ่งขึ้น กฟผ. จึงขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชนไม่จุดไฟเผาไร่อ้อย ตอซังข้าวและวัชพืช เพื่อร่วมกันลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยและสร้างมลพิษทางอากาศ รวมทั้งเป็นอันตรายต่อทัศนวิสัยในการเดินทางและการคมนาคมของประชาชน โดยเฉพาะการเผาในพื้นที่ใกล้แนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เนื่องจากควันและเขม่าจากการเผาไหม้ อาจส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรสู่พื้นดิน ก่อให้อันตรายต่อเกษตรกรและประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวและอาจทำให้เกิดไฟฟ้าตกหรือดับเป็นบริเวณกว้างได้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศและประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าในภาพรวม

 

 

รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ กฟผ. ดูแลรับผิดชอบนั้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้า เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่แห่งพลังงานที่เชื่อมโยงกระแสไฟฟ้าจากระบบผลิตไปยังระบบจำหน่าย คือ การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งจะมีการปรับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมก่อนส่งจ่ายไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าทุกภาคส่วน ดังนั้นเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจึงต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ซึ่ง กฟผ. ได้ดำเนินการดูแลและบำรุงรักษาระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงเป็นประจำ เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและเชื่อถือได้ตลอด 24 ชั่วโมง

         ทั้งนี้ กฟผ. ขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและประชาชนที่ทำเกษตรกรรมหรืออยู่อาศัยใกล้บริเวณแนวเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ไม่เผาไร่อ้อย ตอซังข้าว และวัชพืช ในบริเวณดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนร่วมกันดูแลรักษาเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งถือเป็นสมบัติของชาติ โดยหากพบเหตุการณ์ผิดปกติและไม่ปลอดภัยเกี่ยวกับเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. โปรดแจ้ง ศูนย์บริการข้อมูล กฟผ. โทร. 1416

- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • MEA ชูพลังงานสะอาด เปิดสถานีชาร์จ EV ณ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขับเคลื่อนอนาคตการเดินทางไร้มลพิษ
    21 พ.ย. 2567 12.00 น.
  • "ไทยออยล์" เผยกลยุทธ์ธุรกิจปี 2568 พร้อมเร่งบริหารจัดการโครงการ CFP
    21 พ.ย. 2567 11.18 น.
  • ‘พีระพันธุ์’ แจ้งข่าวดี!! ก.พลังงาน สร้างปรากฎการณ์ใหม่
    21 พ.ย. 2567 10.34 น.
  • WHA Group เปิดบ้านครั้งแรก ชวนร่วมงาน WHA Open House 2024 : Explore -Discover – Shape the Future โชว์ศักยภาพธุรกิจ
    20 พ.ย. 2567 16.48 น.
  • ผลประกอบการ ปตท. ยังแข็งแกร่ง รุกธุรกิจคาร์บอนต่ำ หนุนเติบโตรับกระแสพลังงานโลก
    19 พ.ย. 2567 17.17 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.