​น.ส.จิตวดี เพ็งมาก นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ กล่าวว่า โครงการสุดยอดซีอีโอนี้จัดขึ้น เพื่อยกย่องและประกาศเกียรติคุณบุคคลที่ได้รับรางวัลให้เป็นที่รู้จักในแวดวงเศรษฐกิจระดับประเทศ โดยมุ่งหวังให้สุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชนสื่อสารแนวทางปฏิบัติไปถึงผู้ประกอบการอื่น เพื่อนำไปสร้างประโยชน์ สร้างแรงกระตุ้นในสังคมในการดำเนินธุรกิจที่ดี และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนผู้นำองค์กรภาคธุรกิจที่เข้มแข็ง

 

 

​สำหรับกระบวนการคัดเลือกจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยสุดยอดซีอีโอรุ่นใหญ่ ในรอบแรกจะใช้วิธีการคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากฐานข้อมูลตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พิจารณาจากหลักเกณฑ์ต่างๆ อาทิ Revenues Growth เติบโตต่อเนื่อง 2 ปี Net Profit Margin เป็นบวก ROE และ ROA เป็นต้นรวมถึงตอบแบบสอบถามประเมินศักยภาพการบริหารในด้านต่างๆ ตามมาตรฐานสากล โดยจะคัดจาก 8 สาขาธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการเงิน ธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ธุรกิจทรัพยากร ธุรกิจการบริการ และธุรกิจเทคโนโลยี สาขาละ 2 คน รวม 16 คน จากนั้นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจะเข้าสู่การพิจารณา รอบที่ 2 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น จากการร่วมให้คะแนนโดยกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ 83 สื่อ ซึ่งอยู่ในสังกัดสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และการร่วมโหวตของพี่น้องสื่อมวลชนสายเศรษฐกิจ เพื่อคัดเลือกให้ผู้ที่จะมารับตำแหน่งสุดยอดซีอีโอรุ่นใหญ่ และเดอะเบสท์ซีอีโอรุ่นใหญ่

 

​ส่วนที่ 2 สุดยอดซีอีโอรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ ทางคณะกรรมการสรรหาสุดยอดซีอีโอฯ จึงได้จัดให้มีการเปิดรับสมัครผู้สนใจเพื่อเข้าร่วมโครงการ ในระหว่างวันที่ 12 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน 2565 ในจำนวน 4 สาขาธุรกิจ ประกอบด้วย ธุรกิจการเกษตร ธุรกิจอุสาหกรรมและการผลิต ธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง และธุรกิจภาคบริการ

 

 

ทั้งนี้ผู้สมัครสุดยอดซีอีโอรุ่นใหม่จะต้องตอบแบบสอบถามประเมินศักยภาพการบริหารในด้านต่างๆ ตามมาตรฐานสากลเช่นเดียวกัน โดยจะคัดเลือกจาก 4 สาขาธุรกิจ สาขาละ 3 คน รวม 12 คน จากนั้นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกจะเข้าสู่การพิจารณารอบที่ 2 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้นด้วยการร่วมให้คะแนน โดยกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึงบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจ 83 สื่อ และการร่วมโหวตของพี่น้องสื่อมวลชน เช่นเดียวกับสุดยอดซีอีโอรุ่นใหญ่

 

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การพิจารณาครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้เข้าร่วมวางหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยยึดหลักให้มีมาตรฐานสอดรับกับสากล มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส เพื่อให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นต้นแบบผู้นำองค์กรยุคใหม่ เป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจและสื่อมวลชน และผู้ผ่านการพิจารณาเข้ารอบ 2 ของกลุ่มซีอีโอรุ่นใหญ่ และซีอีโอรุ่นใหม่ จะมีโอกาสได้ร่วมลุ้น เพื่อเข้ารับรางวัลพิเศษ ที่เรียกว่าขวัญใจสื่อมวลชน อีก 1 รางวัล จากการโหวตจากพี่น้องสื่อมวลชน 456 คน ด้วย คาดว่ากระบวนการพิจารณาจะแล้วเสร็จ และประกาศผลการคัดเลือกในเดือนกุมภาพันธ์ 2566