มติบอร์ดกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เห็นชอบ 6,500 ล้านบาท
เพื่อขับเคลื่อนแผนและมาตรการ ปีงบประมาณ 2564
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ปีงบประมาณ 2564 วงเงิน 6,500 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ ในการนำไปใช้ส่งเสริม สนับสนุน ช่วยเหลือ อุดหนุนโครงการต่างๆ ที่เป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้เงินกองทุนฯ ตามความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญติการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยในปีนี้ได้ให้ความสำคัญลำดับต้นกับการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสนับสนุนการสร้างงานและสร้างรายได้ รวมถึง ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์พลังงานและการใช้พลังงานทดแทนในภาคส่วนต่างๆ อาทิ กลุ่มโรงงาน อุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย เป็นต้น ตลอดจนการสร้างงานวิจัย สร้างนวัตกรรมใหม่ และการสร้างบุคลากร
ทั้งนี้ การจัดสรรเงินกองทุนฯ ในปีงบประมาณ 2564 ประกอบด้วย 2 แผน คือ แผนอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน มีกรอบวงเงินสนับสนุน จำนวน 6,305 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 7 กลุ่มงานย่อย ดังนี้
(1) กลุ่มงานตามกฎหมาย วงเงินสนับสนุน 200 ล้านบาท
(2) กลุ่มงานสนับสนุนนโยบายอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน วงเงินสนับสนุน 500 ล้านบาท
(3) กลุ่มงานศึกษา ค้นคว้าวิจัย นวัตกรรม และสาธิตต้นแบบ วงเงินสนับสนุน 355 ล้านบาท
(4) กลุ่มงานสื่อสาร และข้อมูล ข่าวสาร วงเงินสนับสนุน 200 ล้านบาท
(5) กลุ่มงานพัฒนาบุคลากร วงเงินสนับสนุน 450 ล้านบาท
(6) กลุ่มงานส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนในกลุ่มโรงงาน อุตสาหกรรม อาคาร บ้านอยู่อาศัย ภาคขนส่ง ธุรกิจฟาร์มเกษตรสมัยใหม่ และพื้นที่พิเศษ วงเงินสนับสนุน 2,200 ล้านบาท
(7) กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก วงเงินสนับสนุน 2,400 ล้านบาท
ส่วนอีกหนึ่งแผน คือ แผนบริหารจัดการ ส.กทอ. วงเงินสนับสนุน 195 ล้านบาท สำหรับกลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก คณะกรรมการ กองทุนฯ เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการในหลักการ โดยให้คณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการระดับจังหวัดและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายในระดับพื้นที่
โดยมอบหมายให้กระทรวงพลังงานหารือกับกระทรวงมหาดไทยในรายละเอียดและนำเสนอคณะกรรมการกองทุนฯ พิจารณา ต่อไป ทั้งนี้ ในปีต่อไปคณะกรรมการกองทุนฯ มีมติเห็นควรให้ทบทวนแนวทางการสนับสนุนโครงการภายใต้กลุ่มงานส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนเศรษฐกิจฐานราก โดยให้กำหนดเงื่อนไขด้านการร่วมสมทบทุนทั้งด้านตัวเงิน (in cash) และด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวเงิน (in kind) เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการส่งเสริม
โดยหลังจากนี้ กระทรวงพลังงานจะนำแนวทาง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขฯ ที่คณะกรรมการกองทุนฯ มีมติเห็นชอบแล้วเสนอให้เสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งหลังจาก กพช. มีมติเห็นชอบก็จะเข้าสู่กระบวนการจัดสรรเงินกองทุนฯ โดยคาดว่าจะสามารถประกาศยุทธศาสตร์การจัดสรรฯ และประกาศเปิดรับข้อเสนอโครงการได้ประมาณเดือนธันวาคม 2563