GPSC เผยปี 64 โต 8% กำไรสุทธิลดลง 3% ปันผล 1.50/หุ้น ขึ้น XD 24 ก.พ. 65

12 กุมภาพันธ์ 2565 11.15 น.
อ่าน 1,634 ครั้ง

GPSC ประกาศรายได้ปี 64 โต 8% ไฟเขียวเงินปันผล 1.50/หุ้น

คาดปี 65 การใช้ไฟโตตามทิศทางเศรษฐกิจที่เริ่มทยอยฟื้นตัว

 

GPSC เผยผลประกอบการปี 2564 รายได้โต 8% จากการขายไฟฟ้า-ไอน้ำ ป้อนอุตสาหกรรมเพิ่ม ขณะที่กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อย 3% ด้วยปัจจัยราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โชว์รับรู้มูลค่า Synergy 1,633 ล้านบาทเกินแผนที่วางไว้ พร้อมกันนี้ บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอีก 1.00 บาทต่อหุ้น คาดแนวโน้มปี 2565 ความต้องการใช้ไฟฟ้าขยายตัวตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายรัฐเร่งส่งเสริมสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าที่หมดอายุสัญญา ทั้ง IPP SPP และส่งเสริมพลังงานทดแทนในโรงไฟฟ้า VSPP มากขึ้น

 

นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้า กลุ่ม ปตท.เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 74,874 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 2563 ส่วนกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 7,319 ล้านบาท ลดลง 3%

 

โดยสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ทำให้กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ลดลง แม้ปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำรวมจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม รวมถึงมีค่าใช้จ่ายจากการหยุดซ่อมแซมโรงไฟฟ้าโกลว์ พลังงาน ระยะที่ 5 แม้จะได้รับชดเชยจากการประกันภัยบางส่วนแล้วก็ตาม ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือนกุมภาพันธ์โรงไฟฟ้าจะกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ

 

นอกจากนี้ กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ปรับตัวลดลง เนื่องจากโรงไฟฟ้าเก็คโค่วัน มีการหยุดซ่อมบำรุง ส่งผลให้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (Availability Payment: AP) ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี จำนวน 702 ล้านบาท เนื่องจากมีปริมาณน้ำในการผลิตไฟฟ้ามากกว่าปี 2563

 

“ในปี 2564 บริษัทฯ รับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการสุทธิหลังภาษีจำนวน 1,633 ล้านบาท สูงกว่าแผนที่วางไว้ โดยส่วนใหญ่ได้รับจากการบริหารจัดการการผลิตและใช้โครงข่ายไฟฟ้าและไอน้ำร่วมกัน ทำให้สามารถบริหารต้นทุนการผลิตและการขยายฐานลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการงานจัดซื้อและงานซ่อมบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพ” นายวรวัฒน์กล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 22,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิรวม 1,168 ล้านบาท ลดลง 20% สาเหตุหลักจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นของ SPP ลดลง ในขณะที่กำไรของ IPP เพิ่มขึ้น จากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนตัว และรายได้ค่าพลังงานไฟฟ้า (Energy Payment: EP) ของโรงไฟฟ้าศรีราชาและโกลว์ไอพีพีเพิ่มขึ้น จากการขายไฟฟ้าเข้าระบบให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการรับรู้รายได้จากการเคลมประกันภัยโรงไฟฟ้า โกลว์พลังงานระยะที่ 5 บางส่วนในไตรมาสนี้

      

ทั้งนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 1.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 58 ของกำไรสุทธิเมื่อหักเงินปันผลระหว่ากาลครึ่งแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ  0.50 บาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2564 ยังคงเหลือส่วนเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2564 ที่จะต้องจ่ายในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท

โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 (หรือ XD วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565) และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 เมษายน 2565  หลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 

 

สำหรับแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในปี 2565 ศูนย์วิจัยกรุงศรีประเมินว่า ธุรกิจผลิตไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 3.6% ต่อปี ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงนโยบายสนับสนุนการลงทุนภาครัฐตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่ส่งเสริมการขยายกำลังการผลิตและการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ใน 3 ส่วนหลัก ดังนี้ :

(1) โรงไฟฟ้า IPP มีแผนสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ที่ทยอยหมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในช่วงปี 2568 - 2570  (2) โรงไฟฟ้า SPP จะมีโครงการ SPP Replacement เพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าเก่า ที่หมดอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในช่วงปี 2562 – 2568 ซึ่งจะมีการส่งเสริมขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับการลงทุนใหม่ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  และ (3) โรงไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (VSPP) ภาครัฐให้การสนับสนุน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาภาคประชาชน ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ และขยะ 

 

“ตลอดปี 2564 GPSC ยังคงดำเนินมาตรการป้องกันและการบริหารจัดการได้อย่างเข้มข้น ผ่านศูนย์เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส (GPSC G-COVID Center) ทำให้บริษัทฯสามารถดำเนินการผลิตไฟฟ้าไอน้ำ และสาธารณูปโภคได้อย่างมีเสถียรภาพและมีความมั่นคง ตอบสนองความต้องการใช้ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและยังคงดำเนินมาตรการดังกล่าวในปี 2565” นายวรวัฒน์ กล่าว

        

- Advertisement -
- Advertisement -

RELATED

- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -
- Advertisement -

Lasted

  • กองทุนน้ำมันฯ พิสูจน์บทบาท “รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน” สรุป “สงคราม 12 วัน” กับภารกิจดูแลค่าครองชีพประชาชน
    14 ก.ค. 2568 14.35 น.
  • Café Amazon เปิดเวทีประชันฝีมือ เฟ้นหาสุดยอดบาริสต้า ผ่าน Cafe Amazon Barista
    12 ก.ค. 2568 20.44 น.
  • BPP เผย 5 เทรนด์อนาคตพลังงาน สร้างความมั่นคง-ลด CO₂
    11 ก.ค. 2568 17.46 น.
  • ปตท.สผ. จัดงาน OpEx Day 2025 ส่งเสริมการพัฒนาการดำเนินงานสู่ความเป็นเลิศ
    09 ก.ค. 2568 18.27 น.
  • ด่วน! "กองทุนอนุรักษ์" ออกโรงเตือน อย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างจัดสรรงบปี 2568
    09 ก.ค. 2568 18.04 น.

Most Viewed

  • "อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์" คว้าสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี
    20 มิ.ย. 2566 21.47 น.
  • 54 ปี กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว รุกขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน
    01 พ.ค. 2566 09.50 น.
  • ‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตเด่น รับดีมานด์ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคเพิ่ม
    03 พ.ค. 2566 13.56 น.
  • แม่ฮ่องสอน..สู่เมืองท่องเที่ยวสีเขียว ชู "โซลาร์ฟาร์มสมาร์ทกริด" พร้อมจ่ายไฟเชิงพาณิชย์แล้ววันนี้
    25 พ.ค. 2566 17.14 น.
  • 3 การไฟฟ้าจัดใหญ่ ครั้งแรกของโชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอบโจทย์ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า
    12 มิ.ย. 2566 17.47 น.