วันนี้ (14 พฤษภาคม 2564) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รับมอบเงิน 500,000 บาท พร้อมมอบอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์และสิ่งของป้องกันการติดเชื้อ อาทิ ตู้ตรวจโควิด เสากดเจลแอลกอฮอล์แบบเท้าเหยียบ รวมทั้งชุดผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นสินค้าจากชุมชนโดยรอบพื้นที่เขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. จากนายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ผู้แทน กฟผ. และบริษัทในกลุ่ม กฟผ. เพื่อให้ได้นำไปช่วยเหลือสนับสนุนเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ สถานพยาบาลในเรือนจำและทัณฑสถาน ให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย

 

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงภายในเรือนจำ ซึ่งบางแห่งมีผู้ต้องขังอยู่เป็นจำนวนมากถึง 4,000 – 6,000 คน อีกทั้งเรือนจำและทัณฑสถานต้องมีการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่และนำผู้ต้องขังออกศาลอยู่เสมอ จึงอาจมีการหลุดรอดของเชื้อเข้าสู่เรือนจำได้ และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์พยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุม ป้องกัน และรักษาผู้ป่วยให้ดีที่สุด โดยการรักษาภายในโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลสนามของราชทัณฑ์

 

“ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ ขอขอบคุณ กฟผ. เป็นอย่างมากที่ได้สนับสนุนอุปกรณ์และสิ่งของ ทั้งนี้จะนำตู้ตรวจโควิดไปเสริมความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากรแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ต้องตรวจคัดกรองเชิงรุก ทั้งผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่ และประชาชน จำนวนหลายร้อยคนต่อวัน อุปกรณ์ต่าง ๆ จะถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามของกรมราชทัณฑ์ รวมถึงจะนำเงินที่ได้รับไปจัดซื้อยาให้เพียงพอต่อความต้องการเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และสินค้าชุมชนที่ กฟผ. มอบให้ ก็จะนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในกรมราชทัณฑ์และผู้ป่วยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานและต่อสู้โรคนี้ต่อไป” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

 

ด้าน นายจรัญ คำเงิน กล่าวว่า สำหรับครั้งนี้ กฟผ. ตั้งเป้าที่จะส่งมอบตู้ตรวจโควิดให้กับกรมราชทัณฑ์ จำนวน 25 ตู้ เพิ่มเติมจากที่เคยส่งมอบแล้ว ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 1 และ 2 จำนวน 16 ตู้ รวมถึงในวันนี้ยังได้มอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ เสากดเจลแอลกอฮอล์แบบเท้าเหยียบ แอลกอฮอล์เจล หน้ากาก KN95 Surgical Mask ชุดกาวน์กันน้ำ หมวกคลุมผม ถุงมือ และมอบชุดผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่ง กฟผ. ได้จัดซื้อสินค้าจากชุมชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเขื่อนและโรงไฟฟ้า กฟผ. ทั่วประเทศ เพื่อช่วยเสริมรายได้ให้กับชุมชนในช่วงวิกฤตโควิดและช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอีกทางหนึ่งด้วย